หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงไม่กี่ปี ภาวะเศรษฐกิจได้เติบโตอย่างรวดเร็วและทำให้เมืองใหญ่ ๆ ในยุโรปและอเมริกาเริ่มฟื้นตัวและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ผังเมืองเริ่มมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่และห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้น รวมถึงรถยนตร์และถนนหนทางต่างๆ แม้แต่ในช่วงก่อนสงครามก็ตาม ศิลปินและปัญญาชนต่างก็รวมกันเพื่อก่อตั้งเป็นกลุ่มศิลปินที่มีแนวคิดก้าวหน้า (Avant-garde groups) และในช่วงนี้เองที่ลัทธิ Modernism ได้เติบโตขึ้นอย่างเต็มที่ ในวงการจิตรกรรม จิตรกรเช่น Wassily Kandinsky Piet Mondrien หรือ Casimir Malevich ได้อธิบายถึงหลักการแรกของศิลปนามธรรม (Abstract Art) ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน แนวคิดในเรื่องพื้นที่ว่างได้ถูกนำไปใช้ในวงการสถาปัตยกรรมและประยุกต์ศิลปแขนงต่างๆ
กลุ่มนักออกแบบ De Stijl (The Style) ซึ่งรุ่งเรืองในช่วงปี 1917 สมาชิกของกลุ่มเช่นTheo van Doesburg และสถาปนิก Gerrit Rietveld ได้ผสมผสานแนวคิดที่เคร่งครัดของลัทธิเหตุผลนิยม (Rationalism) เข้ากับจิตใจ ซึ่งเป็นแนวคิดทางศิลปที่มีความซับซ้อนมากแนวคิดหนึ่งเลยทีเดียว พื้นที่ว่างและพื้นผิวที่ได้ตัดทอนรูปทรง ที่แสดงให้เห็นในผลงานของนักออกแบบกลุ่ม De Stijl ซึ่งเน้นองค์ประกอบของรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และนิยมใช้สีสันโดยเฉพาะแม่สีในขั้นที่1 เช่นสีเหลือง สีแดงและสีน้ำเงิน Gerrit Rietveld ได้แสดงความคิดของเขาลงไปในงานออกแบบเก้าอี้ Roodblauwe Stoel (ผลงานในช่วงปี 1918-1924) รวมถึงงานสถาปัตยกรรมของเขาเช่นบ้าน Schroder House ที่สร้างในปี 1924
หนึ่งในศูนย์กลางทางศิลปที่สำคัญของศิลปินหัวก้าวหน้า (Avant-Garde Art) ในทศวรรษที่ 20 คือกลุ่ม Bauhaus ซึ่งก่อตั้งโดย Walter Gropius ที่เมือง Weimar ในปี 1919 แม้ว่าในตอน เริ่มแรกนั้น จะได้อิทธิพลจากทฤษฎีของกลุ่ม De Stijl แต่ได้ปรับให้เข้ากับการใช้งานจริงและสภาพแท้จริงทางสังคม บรรดาสถาปนิก ช่างฝีมือ จิตรกร ประติมากร และอาจารย์พิเศษจำนวนมากต่างทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดภายในสถาบัน Bauhaus โดยพัฒนาแนวคิดซึ่งก่อให้เกิดโฉมหน้าของ Modernism ในศิลปประยุกต์ทุกแขนง พวกเขาพยายามค้นคว้าหานิยามบทสรุปที่ว่า การมุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยที่นำไปสู่ของการออกแบบ (Functionalist approach to design) ที่จำเป็นต่อมนุษย์ในยุคของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งคำว่า “ยุคของเครื่องจักร” (Machine Age) ได้อุบัติขึ้นในยุคนี้เอง
ก้าวที่สำคัญของ Bauhaus คือผลงานเก้าอี้ของ Marcel Breuer ในปี 1925 ที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านพักอาศัยตัวแรกๆ ที่ทำด้วยเหล็กท่อกลม (Tubular steel) และ Ludwig Mies van der Rohe ได้ออกแบบเก้าอี้ตัวแรกที่อาศัยหลักการคานยื่น (Cantilever Chair)
นับตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์เหล็กท่อกลมมีความเหมาะสมต่อการผลิตเฟอร์นิเจอร์อุตสาหกรรมเป็นต้นมา ด้วยผิวสัมผัสที่เย็น รูปลักษณ์ที่ดูสะอาดและแข็งแรงสำหรับมุมมองที่แปลกใหม่ของการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับยุคสมัย วัสดุชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วโดยนักออกแบบและสถาปนิก
ในประเทศฝรั่งเศส สถาปนิกนักออกแบบ Le Corbusier หรือ Rene Herbst และ Eileen Gray เป็นนักออกแบบที่สำคัญและมีอิทธิพลอย่างสูงในกลุ่ม Modernism เฟอร์นิเจอร์เหล็กท่อกลมที่มีชื่อเสียงของพวกเขาซึ่งยังคงบุด้วยหนังแม้ในปัจจุบัน และในผลงานของ Pierre Chareau เราจะเห็นการเชื่อมโยงของศิลป Art Deco ซึ่งมีอิทธิพลอยู่ในฝรั่งเศสช่วงนั้น
ประเทศรัสเซียถือเป็นประเทศแรกที่มีการปกครองภายใต้ระบอบสังคมนิยม นับตั้งแต่การปฏิวัติในเดือนตุลาคมปี 1918 และได้กลายเป็นศูนย์กลางของศิลปหัวก้าวหน้า (Avant-Garde Art) กลุ่มศิลปินในกรุงมอสโคว์ต่างแสวงหารูปแบบที่เป็นนามธรรมและนำไปสู่ทิศทางของการออกแบบ ซึ่งถือเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในชื่อลัทธิ Constructivism และ Suprematism
สมาชิกหลายๆ คนของกลุ่ม ถูกจัดเป็นพวกสังคมนิยม Communism ในฐานะที่นำเสนอแนวคิดของการผลิตในระบบอุตสาหกรรมเพื่อรองรับสังคมส่วนใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น