วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดบทที่1-4 วิชาศิลปและวัฒนธรรมตะวันตก

แบบฝึกหัด บทที่ 1 


1. ข้อใดไม่ถูกต้อง
    ตอบ ค.มนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ในแง่ของอารมณ์และความรู้สึกทางธรรมชาติ

2.  การที่สังคมมีความซับซ้อนและมีความเจริญทางวัตถุเกิดจากปัจจัยสำคัญข้อใด
    ตอบ ค.เครื่องมือ

3.  ข้อใดถูกต้องที่สุดเมื่อกล่าวถึงการศึกษางานศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในโลกตะวันตก
    ตอบ ง.ภาพเขียนสีถ้ำลาสโคซ์

4. คำว่ามนุษย์ถนัดในการใช้มือตรงกับข้อใดมากที่สุด
    ตอบ ก.โฮโมฮาบิลิส

5. ข้อใดเป็นมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มหนึ่งในยุโรปซึ่งทิ้งผลงานศิลปะไว้มากมายในถ้ำต่างๆ
    ตอบ ก.นีแอนเดอธัล

6. ข้อใด มิใช่ แหล่งโบราณคดีซึ่งพบหลักฐานภาพเขียนสีสมัยหินเก่าอายุประมาณ 30,000 – 25,000 BC.ในยุโรป
    ตอบ ค.โอลดูเวย์

7. ข้อใดเป็นศิลปะถ้ำซึ่งพบโดยบังเอิญจากการเล่นซุกซนของเด็กสองคนเมื่อค.ศ.1940
    ตอบ ข. ลาสโคซ์

8. ภาพเขียนสีในถ้ำอะไรมักถูกยกเป็นตัวอย่างของจิตรกรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์เสมอ
    ตอบ ก. อัลตามีรา

9. ข้อใดไม่ถูกต้อง
    ตอบ ง. งานประติมากรรมรูปคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มักมีขนาดใหญ่

10. Menhir or Standing Stone เป็นอนุสาวรีย์หินแบบใด
      ตอบ ข. หินตั้งเดี่ยว



แบบฝึกหัด บทที่ 2

1. พื้นฐานดั้งเดิมก่อนเกิดอารยธรรมตะวันตกก่อนตัวขึ้นเมื่อใด
    ตอบ ก. ประมาณ 4,000 BC.

2. ภูมิภาคแถบเอเชียไมเนอร์เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมโบราณในข้อใด
    ตอบ ก. เมโสโปเตเมีย

3. แม่น้ำไทกริส-ยูเฟรตีสพัดดินตะกอนมาท่วมสองฝั่งภาคใต้ดินแดนเมโสโปเตเมียในฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือน......................ทำให้ภาคใต้เป็นดินแดนที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเลอุดมด้วยปุ๋ยธรรมชาติเหมาะต่อการเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ ข้อใดถูกต้อง
    ตอบ ข. มีนาคม – พฤษภาคม

4. พื้นที่ภาคเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมียมีฝนตกชุกเมื่อใด
    ตอบ ค. ฤดูหนาว

5. ข้อใดเป็นชนชาติเก่าแก่ที่ริเริ่มสร้างสรรค์อารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นมา
    ตอบ ก. ชาวสุเมอเรียน

6. ข้อใดเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวเมโสโปเตเมียมองโลกในแง่ร้ายและไม่เห็นคุณค่าของชีวิต
    ตอบ ค. เห็นตนเองเป็นทาสที่เกิดมาเพื่อรับใช้พระเจ้า

7. ชาวสุเมเรียนไม่นิยมสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ แต่นิยมสร้างซิกเกอแรท (Ziggurats) ศาสนสถานขนาดใหญ่กลางเมืองเป็นที่ประทับของเทพเจ้า ลักษณะคล้ายภูเขาห้อมล้อมด้วยกำแพงเมืองและบ้านเรือนประชาชน สร้างจากวัสดุประเภทใด
ตอบ ก. อิฐตากแห้ง

8. ข้อใดเป็นการปกครองในระยะแรกของอาณาจักรสุเมอเรียน
    ตอบ ง. สภาของผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะ

9. ข้อใดเป็นอักษรที่เกิดจากการใช้ไม้เขียนลงบนแผ่นดินเหนียวแล้วผึ่ง หรืออบให้แห้ง
    ตอบ ก.คูนิฟอร์ม

10. ข้อใดเป็นชื่อของผู้ก่อนตั้งอาณาจักรบาบิโลเนีย
ตอบ ก.ฮัมบูราบี

11. “พวก Canaaites” เป็นคำเรียกชนชาติในข้อใด
ตอบ ก. ชาวฟินิเชียน

12. หลังจากถูกรุกรานโดยชาวยิวและชาวฟิลิสไตน์เมื่อประมาณ 1,300-1,000 BC. ดินแดนของชาวคะนาอันไนต์จึงเหลือเพียง “ฟินิเชียน” ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งแคบๆ ของทะเลอะไร
ตอบ ก. ทะเลเมดิเตอเรเนียน

13. ในปี750BC.ชนชาติใดได้เข้ามายึดครองดินแดนของชาวฟินิเชียนจนเกือบหมดเหลือเพียงอาณานิคมที่เมืองคาร์เธจเท่านั้น
ตอบ ก. ชาวแอสซิเรียน

14. ข้อใดเป็นต้นตระกูลของอักษรที่ชาวยุโรปใช้อยู่ในปัจจุบัน
ตอบ ค.อักษรฟินิเชียน

15. ชาวฮิบรูเป็นชนเผ่าเร่รอนในทะเลทรายเมื่อ 1,400 BC. มีMoses เป็นผู้นำสำคัญในการปลดแอกจากการเป็นทาสของชนชาติใด
ตอบ ข. อียิปต์

16. ข้อใดเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรอิสราเอลเมื่อประมาณ1,013-973 BC.
ตอบ ก. พระเจ้าเดวิด

17. อาณาจักรอิสราเอลถูกทำลายโดยชนชาติใด
ตอบ ง. ชาวแอสซิเรียน

18. เหตุการณ์ที่เรียกกว่า The Babylonian Captivity เกี่ยวข้องกับชนชาติใด
ตอบ ข.ชาวฮิบรู

19. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับศสาสนายูดาย
ตอบ ข. นับถือพระยะโฮวา

20. ผู้สถาปนาอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อปี 549 BC. คือใคร
ตอบ ง. พระเจ้าไซรัส

แบบฝึกหัด บทที่ 3

1. มหากาพย์อีเลียดและโอเดสซีเป็นของอารยธรรมกรีกยุคใด
    ตอบ ก. ยุคมืด

2. วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานรูปเคารพของเทพองค์ใด
    ตอบ ข. อะเธนา

3. หัวเสาทำเป็นรูปใบไม้ตรงกับข้อใด
    ตอบ ค. หัวเสาแบบโครินเธียน

4. ความนิยมในการสร้างประติมากรรมหญิงเปลือยแทนรูปชายเปลือยเกิดขึ้นยุคใด
    ตอบ ง. ยุคเฮเลนิสตติก

5. จิตรกรรมกรีกสมัยแรกมักทำ Back ground เป็นสีอะไร
    ตอบ ข. สีแดง

6. ลักษณะงานจิตรกรรมที่นิยมวาดสีพื้นตัดกับภาพในฉาก แล้วพัฒนาเป็นรูปเครือเถา และรูปเล่าเรื่องนิทานปรัมปรา (Methology) และมหากาพย์ของโฮเมอร์อย่างกลมกลืนงดงามเกิดขึ้นยุดใด
    ตอบ ค. ยุคคลาสสิค

7.  การแสดงละครแพร่หลายมากในยุดใด
     ตอบ ค. ยุคคลาสสิค

8. ข้อใดถูกต้องเมื่อกล่าวถึงละครแบบโศกนาฏกรรม (Tragedy)  และสุขนาฏกรรม (Comedy)
    ตอบ ก. ตัวละครชายทั้งหมด

9. นักปรัชญากรีกที่ก่อตั้งสำนักอะคาเดมีขึ้นที่เอเธนส์คือใคร
    ตอบ ข. เพลโต

10. นักปรัชญาที่เชื่อว่าปัญญานำมาซึ่งความรู้ และความรู้นำมาซึ่งความสุขสบาย ถ้าปราศจากความสุขสบายมนุษย์จะไม่เกิดปัญญา คือใคร
ตอบ ค. อริสโตเติล

11. เทพองค์ใด มิใช่ พี่น้องของมหาเทพซูส
ตอบ ค. อะธีน่า

12. อาวุธของมหาเทพซูส คืออะไร
ตอบ ค. สายฟ้า

13. เทพที่มักปรากฏภายในลักษณะสวมหมวกขอบกว้างสวมรองเท้ามีปีกถือคทาที่มีงูพันคือใคร
ตอบ ค. เฮอร์มีส

14. เทพีแห่งการครองเรือนและเทพแห่งครอบครัว คือใคร
ตอบ ค. เฮสเทีย

15. เทพีแห่งสงคราม ความเฉลียวฉลาด และศิลปะศาสตร์
ตอบ ข. อะธีน่า

16. เป็นชนวนเหตุของสงครามกรุงทรอยคือใคร
ตอบ ก. ปารีส

 
แบบฝึกหัด บทที่ 4

1. การปกครองในข้อใดทำให้เกิดจักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine Empire)
    ตอบ ค. การปกครองแบบ Tretarchy

2. หลังจากเกิดจักรวรรดิไบแซนไทน์ ข้อใดเป็นรูปแบบการปกครองของจักรวรรดิดังกล่าว
    ตอบ ก. การปกครองแบบ Autocrat

3. “โรมใหม่” หมายถึงข้อใด
    ตอบ ค. คอนสแตนติโนเปิล

4. ข้อใด มิใช่ พื้นที่ของจักรวรรดิโรมันตะวันออกในคริสต์ศตวรรษที่ 7
    ตอบ ค. คาบสมุทรไอบีเรีย

5. ข้อใดเป็นการปกครองที่จักรพรรดิทรงมีอำนาจสูงสุดทั้งทางจักรวรรดิและทางศาสนา
    ตอบ ก. การปกครองแบบ Autocrat

6. จักรวรรดิโรมันตะวันออกใช้ภาษาอะไรในการสื่อสารอย่างเป็นทางการ
    ตอบ ก. ภาษากรีก

7. คริสต์ศาสนาแบบ Christian Hellenism มีศูนย์กลางที่ใด
    ตอบ ง. กรุงคอนสแตนติโนเปิล

8. ข้อใด ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่หลายของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์
    ตอบ ง. ยุโรปตะวันตก

9. ข้อใด  มิใช่ เมืองสำคัญทางศาสนาคริสต์ที่จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงจัดไว้เมื่อ ค.ศ. 325
    ตอบ ก. เอเธนส์

10. ข้อใดไม่ ถูกต้อง
ตอบ ง. Novels คือ นิยายเรื่องยาว

อ้างอิงจากหนังสือ



 
 เอกสารคำสอนวิชา ศิลปวัฒนธรรมตะวันตกเพื่อการนำเที่ยว HT325.คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เทพเจ้าในความเชื่อของชาวกรีก - ชาวโรมัน


       ตำนานเทพกรีกเป็นเรื่องราวของเทพเจ้าและวีรบุรุษในตำนานของชนชาวกรีกโบราณซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปที่สนใจสืบค้นประวัติ แต่อาจจะแตกต่างที่ชื่อ เพราะส่วนใหญ่จะได้อ้างอิงตำนานของกรีกโบราณเป็นหลัก ส่วนตำนานของโรมันเป็นอาณาจักรที่เกิดขึ้นทีหลัง
            ความจริงแล้วเหล่าเทพเจ้าของโรมันก็คือเทพเจ้าที่กรีกนับถือ เมื่ออาณาจักรกรีกล่มสลายไป และเกิดอาณาจักรโรมันที่รุ่งเรืองมาแทนที่ ชาวโรมันก็ได้รับตำนานความเชื่อในเหล่าเทพเจ้าของชนชาวกรีกมาด้วย แต่ก็ได้มีการนำมาเปลี่ยนชื่อและแต่งเติมเรื่องราวเข้าไปจนกลายเป็นตำนานเทพเจ้าของอาณาจักรตนเอง สังเกตุได้จากชื่อที่แตกต่างกัน เช่น เทพเจ้าสูงสุดกรีกเรียกว่า ซูส แต่โรมันเรียกว่า จูปิเตอร์, กรีกเรียกเทพเจ้าแห่งความรักว่าอีรอส แต่โรมันเรียกว่าคิวปิด เป็นต้น

ชื่อกรีกและโรมันของเทพในเทพปกรณัม


อาจจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป...แต่แท้จริงแล้วคือเทพองค์เดียวกันนั้นเอง  เรามีแผนผังของเทพเจ้ากรีกและชาวโรมันมาให้ดูกันค่ะ
    




                             แผนผังของเทพเจ้ากรีกและชาวโรมัน








ชื่อกรีกและโรมันของเทพในเทพปกรณัม


เทพเจ้าชั้นสูงทั้งสิบสองที่อยู่บนเทือกเขาโอลิมปัสกันดีกว่า
Zeus (Greek) : Jupiter (Roman) เป็นเทพเจ้าสูงสุด
ท่านได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งพายุ อากาศ และท้องฟ้า
อาวุธประจำกายของท่านคือสายฟ้า ทรงพิโรธคราใด ท่านก็ฟาดสายฟ้าลงมาจากโอลิมปัสลงโทษเทพหรือมนุษย์ผู้โอหังให้สิ้นชีพเสีย


Hera (Greek) : Juno (Roman)
ท่านเป็นราชินีแห่งทวยเทพทั้งหมด เป็นมเหสีเอกของซูส
ถือกันว่าท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการแต่งงาน (Matrimony)


Poseidon (Greek) : Neptune (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แผ่นดินไหว และม้าศึก
อาวุธประจำกายของท่านคือตรี หรือสามง่ามที่เห็นในรูปนั่นเอง


Demeter (Greek) : Ceres (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว เป็นพระมารดาของ Proserpina

Ares (Greek) : Mars (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการศึกสงคราม ตามความเชื่อถือเป็นบิดาของโรมูลัสผู้ก่อตั้งโรม
ท่านเป็นชู้ลับกับเทพธิดาวีนัสอีกด้วยค่ะ


Hermes (Greek) : Mercury (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการสื่อสาร มีหน้าที่ส่งข่าวให้เทพองค์อื่นๆ
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้นำพาวิญญาณไปยังยมโลกอีกด้วย


Hephaestus (Greek) : Vulcan (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งไฟและการตีเหล็กและเป็นสามีของวีนัส
เมื่อสงสัยว่าเจ้าน้องชายคือมาร์สเป็นชู้กับมเหสีตน ท่านก็ตีเหล็กเป็นตาข่ายละเอียด จนจับทั้งสองได้คาหนังคาเขาขณะเปลือยกายอยู่ด้วยกัน
ท่านทิ้งทั้งสองไว้ในสภาพนั้นและเรียกเทพเจ้าทั้งหลายมาดู
การถูกเทพเจ้าทั้งหลายหัวเราะเยาะเย้ยจึงเป็นเรื่องที่น่าอับอายของมาร์สและวีนัสไปอีกนานเชียวค่ะ


Aphrodite (Greek) : Venus (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความรักและความสวยงาม เป็นแม่ของคิวปิด
ท่านรักสวยรักงามและค่อนข้างเอาแต่ใจ
อย่างตอนที่นางริษยาในความงามของไซคีซึ่งเป็นเพียงมนุษย์ นางจึงสั่งให้คิวปิดบุตรชายไปทำให้ไซคีตกหลุมรักชายที่น่าเกลียดที่สุด
คิวปิดกลับพลาดทำศรจิ้มนิ้วตัวเองและตกหลุมรักไซคี จนเป็นตำนานรักของคิวปิดกะไซคีที่เราได้ยินกัน

หรือในคราที่วีนัส ฮีร่า และอธีน่า แข่งกันว่าใครสวยที่สุดและให้ปารีสตัดสิน
นางก็ติดสินบนปารีสว่าหากเลือกนาง นางจะมอบหญิงสาวที่สวยที่สุดให้ แน่นอนว่าปารีสจึงเลือกนาง
นางจึงให้เฮเลนตกหลุมรักปารีสตามสัญญาและปารีสก็ลักลอบพาเฮเลนกลับทรอยจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมสงครามกรุงทรอยตามมา

Venus de Milo
Musee du Louvre, Paris, France


Athena(Greek) : Minerva (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญาและการศีกสงคราม
นางเองก็เอาแต่ใจไม่แพ้วีนัสจนเกิดเรื่องยุ่งเหยิงอยู่เสมอ
กำเนิดของอธีน่านั้นค่อนข้างพิเศษอยู่สักหน่อยโดยซูสนั้นเป็นผู้ให้กำเนิด
เรื่องมีอยู่ว่า ซูสนั้นได้เมทิสเป็นภรรยา
โหรทำนายว่าลูกของทั้งสองจะยิ่งใหญ่กว่าซูส
ซูสจึงกลืนเมทิสเข้าไปทั้งตัวเพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสมีบุตรที่ว่านั้น
แต่เมทิสนั้นได้ตั้งครรภ์แล้วและเธอก็ได้อาศัยอยู่ในตัวซูส จนครบกำหนดคลอดอธีน่านั้นก็ได้เกิดออกมาโดยออกมาทางหน้าผากของซูส



Apollo (Greek) : Apollo (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง การดนตรี กาพย์กลอน การทำนาย และการเยียวยา


Artemis (Greek) : Diana (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ พรหมจรรย์ การล่า และการคลอดบุตร เป็นนองสาวฝาแฝดของอพอลโล
ที่ได้ตำแหน่งเทพแห่งการคลอดบุตรพ่วงมาด้วยนี่เป็นเพราะบางตำนานเชื่อกันว่าเธอได้ช่วยลีโตพระมารดาในการคลอดอพอลโลกด้วย



Hestia (Greek) : Vesta (Roman)
ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งชีวิตครอบครัว ว่ากันว่าเธอไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย
อพอลโลและโพไซดอนนั้นพึงใจในตัวเธอแต่เธอร้องขอแก่ซูสผู้เป็นบิดาว่าจะขอรักษาพรหมจรรย์ไว้ตลอดชีพ
ซูสให้พรตามคำขอและให้เธอนั้นอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนอยู่บนโอลิมปัสเสมอมา



จบจากเทพชั้นสูงทั้งสิบสองแห่งโอลิมปัสแล้ว เราลองมาไล่ดวงดาวที่เหลือกันให้ครบดีว่า
Cronus (Greek) : Saturn (Roman) ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม เป็นบิดาของ Jupiter, Neptune, Juno และ
Pluto
Uranus (Greek) : Caelus (Roman) บิดาของ Saturn (Greek: Cronus), Ops (Rhea), Oceanus และ
Venus (Aphrodite).
Hades (Greek) : Pluto (Roman) เป็นเทพเจ้าแห่งยมโลก ท่านได้ไปลักพา Proserpina มาเพื่อเป็นภรรยา
มารดาของเธอคือ Ceres เทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว เศร้าเสียใจมากจนดลบันดาลให้มีฤดูหนาวขึ้น พืชผลพาการล้มตาย
นำความเดือดร้อนมาเป็นอันมาก

ซูสจึงขอลูกสาวคืน พลูโตได้ทำข้อตกลงว่าจะคืนให้ปีละหกเดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ เซเรสดีใจมาก
บันดาลให้ดอกไม้พืชพรรณออกดอกออกผลสะพรั่งและเมื่อเธอกลับไปยังยมโลก ความเศร้าของเธอก็ทำให้ฤดูหนาวมาเยือนอีกครา
โลกจึงมีฤดูด้วยประการฉะนี้

นำรูปปั้นตอนพลูโตลักพาโพรเซอร์พิน่าของเบอร์นีนี่มาให้ค่ะ



ชื่อบางชื่อก็คล้ายกันจนน่าสับสนนะคะ อย่างเช่น อีออส กับอีรอส
Eos (Greek) : Aurora (Roman) เทพเจ้าแห่งรุ่งอรุณ (Dawn)
Eros(Greek) : Cupid (Roman) เทพเจ้าแห่งความรัก

เอารูปคิวปิดกะไซคีมาลงค่า รูปนี้ถ่ายเองตอนไปพิพิธภัณฑ์ลูร์ฟ ที่ปารีส สวยจนลืมหายใจเลยค่ะ


ทีนี้มาถึงชื่อของเทพเจ้าแห่งสายลมกันบ้างดีกว่า ที่หลักๆก็คงเป็นสายลมทั้งสี่ทิศค่ะ

Boreas (Greek) : Aquilon (Roman) เทพเจ้าแห่งสายลมเหนือ ผู้นำพาลมหนาวแห่งเหมันตฤดูมาให้มวลมนุษย์

Notus (Greek) : Auster (Roman) เทพเจ้าแห่งสายลมใต้ ผู้นำพาลมร้อนแห่งคิมหันตฤดู
ยามปลายฤดูร้อนต้นใบไม้ร่วงจะนำพายุมาทำลายพืชผล

Eurus (Greek) : Vulturnus (Roman) ) เทพเจ้าแห่งสายลมตะวันออก นำพาความอบอุ่และสายฝนอันชุ่มฉ่ำมาเยือน

Zephyrus (Greek) : Favonius (Roman) เทพเจ้าแห่งสายลมตะวันตก สายลมอันอ่อนโยนที่นำพาฤดูใบไม้ผลิ

Zephyrus หรือ Zephyr นั้น เป็นสามีของไอริส เทพธิดาแห่งสายรุ้ง น้องสาวของตัวเอง
แต่เซเฟอร์นั้นเจ้าชู้จึงแอบไปเกี้ยวน้องสาวองค์อื่นๆด้วย
ว่ากันว่า เซเฟอร์และบอเรียสพี่ชายต่างหลงรักคลอริส (Greek: Chloris - Roman: Flora) ผู้เป็นน้องสาวของทั้งคู่
เซเฟอร์ได้ลักพาคลอริส ไป และมอบสวนดอกไม้ให้เป็นดินแดนของเธอ ซึ่งที่นั่นเธอได้กำเนิดบุตรชายคือ Carpus หรือผลไม้นั่นเอง

ชายาอีกคนของเซเฟอร์คือ Podarge บางครั้งรู้จักกันในนาม Celaeno
เธอเป็นน้องสาวของเซเฟอร์(และของไอริสและคลอริส)อีกเช่นกัน
ซึ่งเธอได้ให้กำเนิด Balius and Xanthus ซึ่งเป็นม้าของอคีลีส (Achilles) นั่นเอง



อ้างอิงจาก


http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mneme&date=05-10-2009&group=10&gblog=2